Information

ข้อมูลเจ้าของร้าน

กำไลหินมงคล,แก้วขนเหล็ก,หินธรรมชาติ,หินมงคล,เครื่องประดับหิน

บทความที่น่าสนใจ

หมวดสินค้าทั้งหมด

แจ้งการชำระเงิน ของร้าน กำไลหินมงคล,แก้วขนเหล็ก,หินธรรมชาติ,หินมงคล,เครื่องประดับหิน ตรวจสอบพัสดุ ของร้าน กำไลหินมงคล,แก้วขนเหล็ก,หินธรรมชาติ,หินมงคล,เครื่องประดับหิน แจ้งปัญหาเกี่ยวกับระบบร้านค้า กำไลหินมงคล,แก้วขนเหล็ก,หินธรรมชาติ,หินมงคล,เครื่องประดับหิน

Fanpage

ตำนานพระพุทธรูปปางต่าง ๆ [เขียนเมื่อ : 2013-09-02]

 ตำนานพระพุทธรูปปางต่าง ๆ

พระพุทธจริยาตอนหนึ่ง ๆ ที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าแสดงให้ปรากฏในสมัยหนึ่ง ๆ ซึ่งพอจะประมวลกันเข้าในพุทธจริยา ๓ ประการ ได้ดังนี้ :-

พระพุทธจริยาในเวลาที่ทรงบำเพ็ญ เพื่อความตรัสรู้อนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ นับแต่แรกเสด็จออกมหาภิเนษกรมณ์ จนถึงเวลาตรัสรู้และเวลาเสวยวิมุตติสุข อันเป็นเวลา ๖ ปี ซึ่งล้วนแต่เป็นประโยชน์เกื้อกูลแก่พระองค์โดยเฉพาะ เรียกว่า อัตตัตถจริยา ถ้าจะกำหนดด้วยพระพุทธรูปปางต่าง ๆ ก็จะได้ถึง ๑๗ ปาง โดยนับแต่ปางที่ ๑ คือ ปางอธิษฐานเพศเป็นบรรพชิต จนถึงปางที่ ๑๗ คือปางรับสัตตุก้อน สัตตุผง

พระพุทธจริยาที่ทรงบำเพ็ญเพื่อประโยชน์เกื้อกูลแก่พระประยูรญาติ โดยเฉพาะซึ่งก็มีส่วนน้อยเรียกว่า ญาตัตถจริยา ถ้าจะกำหนดด้วยพระพุทธรูปปางต่าง ๆ ก็จะได้เพียง  ปาง คือ ปางแสดงอิทธิปาฏิหาริย์ ปางโปรดพระพุทธบิดา ปางห้ามพระญาติแย่งน้ำในสมุทร และปางโปรดพระพุทธมารดา

พระพุทธจริยาที่ทรงบำเพ็ญเพื่อประโยชน์เกื้อกูลแก่มหาชนทั่วไปไม่จำกัดชาติ ชั้น วรรณะ ตลอดเทพดา พรหม ยักษ์ ที่สุดจนสัตว์เดรัจฉาน ประดิษฐานพระพุทธศาสนาเพื่อประโยชน์สุขแก่ชาวโลก รวมทั้งการแสดงธรรม การบัญญัติพระวินัยแก่พระสงฆ์สาวก เพื่อความตั้งมั่น
แห่งพระพุทธศาสนา ในฐานะที่ทรงเป็นพระพุทธเจ้า อันเป็นประโยชน์ใหญ่หลวงแก่ประชากรเรียกว่า โลกัตถจริยา กำหนดด้วยพระพุทธรูปปางต่าง ๆ ซึ่งตัดจากอัตตัตถจริยา ๑๗ ปางและญาตัตถจริยา ๔ ปาง รวมเป็น ๒๑ ปางออกเสีย คงเหลือ ๔๓ ปาง เป็นส่วนโลกัตถจริยาทั้งสิ้น รวมพระพุทธรูปปางต่าง ๆ ซึ่งแสดงพระพุทธจริยาของพุทธเจ้าทั้งมวลเป็น ๖๖ ปาง

ก่อนแต่จะทราบตำนานของพระพุทธรูปปางต่าง ๆ ทั้งหมดนั้น สมควรจะทราบสถานที่และเวลาซึ่งพระพุทธเจ้าเสด็จประทับบำเพ็ญพระพุทธจริยาเพื่อประโยชน์เกื้อกูลดังกล่าวอันเป็นมูลฐานสำคัญแห่งการบังเกิดตำนานพระพุทธรูปปางต่าง ๆ นี้.

สถานที่และปีที่พระพุทธเจ้าเสด็จจำพรรษา

จำเดิมแต่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ตรัสรู้อนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณในวันเพ็ญเดือน ๖ แล้ว เดือน ๘ ก็เสด็จไปแสดงธรรมจักรโปรดพระปัญจวัคคีย์ในป่าอิสิปตนมฤคทายวัน และทรงจำพรรษาที่ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน แสดงอนัตตลักขณสูตรโปรดพระปัญจวัคคีย์ภิกษุอันเป็นพรรษาแรก ซึ่งจัดลำดับกาลได้ดังนี้ :-

พรรษาที่ ๑ ปีระกา   เสด็จจำพรรษาที่ป่าอิสิปตนมฤคทายวันโปรดพระปัญจวัคคีย์และพระยสกับมิตรสหาย

พรรษาที่ ๒ ปีจอ 

พรรษาที่ ๓ ปีกุน  และ

พรรษาที่ ๔ ปีชวด  ทรงจำพรรษาที่พระเวฬุวัน พระนครราชคฤห์ โปรดพระเจ้าพิมพิสารและเสวกามาตย์ราชบริพารกับทั้งพระสารีบุตรและพระโมคคัลลานะ ตลอดบริวาร

พรรษาที่ ๕ ปีฉลู  ทรงจำพรรษาที่กุฏาคารสาลาป่ามหาวันพระนครไพสาลี

พรรษาที่ ๖ ปีขาล  ทรงจำพรรษาที่กูฏบรรพต

พรรษาที่ ๗ ปีเถาะ  ทรงจำพรรษาที่ปัณฑุกัมพลสิลาอาสน์ใต้ร่มไม้ปาริชาติในดาวดึงส์สวรรค์ แสดงอภิธรรมโปรดพระพุทธมารดา

พรรษาที่ ๘ ปีมะโรง  ทรงจำพรรษาที่เภสกลาวัน (ป่าไม้สีเสียด) ใกล้เมืองสุงสุมารคีรี ในภัคคชนบท

พรรษาที่ ๙ ปีมะเส็ง  ทรงจำพรรษาที่โฆสิตาราม ในเมืองโกสัมพี 

พรรษาที่ ๑o ปีมะเมีย  ทรงจำพรรษาที่ภัททสาลมูล ในป่าปาลิไลยวัน อาศัยช้างปาลิไลยกะปฏิบัติบำรุง

พรรษาที่ ๑๑ ปีมะแม  ทรงจำพรรษาที่บ้านนารายพราหมณ์

พรรษาที่ ๑๒ ปีวอก  ทรงจำพรรษาที่ปุจิมณฑมูล ร่มไม้สะเดา ที่นเรฬุยักษ์สิงอยู่ใกล้เมืองเนรัญชา พรรษานี้ทรงบัญญัติพระวินัยตั้งสิกขาบทไว้เป็นข้อปฏิบัติสำหรับพระภิกษุเป็นประถม

พรรษาที่ ๑๓ ปีระกา (รอบที่สอง)  ทรงจำพรรษาที่ปาลิยบรรพต

พรรษาที่ ๑๔ ปีจอ  ทรงจำพรรษาที่พระเชตวนาราม พระนครสาวัตถี

พรรษาที่ ๑๕ ปีกุน  ทรงจำพรรษาที่นิโครธาราม พระนครกบิลพัศดุ์ โปรดพระพุทธบิดาและพระญาติ ตลอดเสด็จห้ามพระญาติวิวาทกันเพราะเหตุแย่งน้ำในสมุทร

พรรษาที่ ๑๖ ปีชวด  ทรงจำพรรษาที่อัคคาฬวเจดีย์วิหาร เมืองอาฬวี โปรดอาฬวกยักษ์

พรรษาที่ ๑๗ ปีฉลู 

พรรษาที่ ๑๘ ปีขาล   และ

พรรษาที่ ๑๙ ปีเถาะ  รวม ๓ พรรษานี้  ทรงจำพรรษาที่พระเวฬุวนาราม พระนครราชคฤห์

พรรษาที่ ๒o ปีมะโรง จนถึงพรรษาที่ ๔๔ รวมเป็น ๒๕ พรรษานี้  ทรงจำพรรษาที่พระเชตวนารามแลที่บุพพารามสลับกันคือที่พระเชตวนาราม ๑๙ พรรษา ที่บุพพาราม ๖ พรรษา

พรรษาที่ ๔๕ ปีมะเส็ง ซึ่งเป็นปีสุดท้าย ปีที่เสด็จปรินิพพานทรงจำพรรษาที่เวฬุวคาม ใกล้พระนครไพสาลี  ครั้นออกพรรษาแล้ว จึงเสด็จโปรดเวไนยสัตว์ยังนครต่าง ๆ จนถึงเมืองกุสินารา ในวันเพ็ญกลางเดือน ๖ วิสาขมาส และเสด็จปรินิพพาน ณ สาลวโนทยาน เมืองกุสินารา

ประมวลสถานที่พระบรมศาสดาสัมพุทธเจ้าเสด็จประทับบำเพ็ญพุทธกิจ โปรดเวไนยสัตว์ นับแต่แรกตรัสรู้จนเสด็จดับขันธปรินิพพาน ตามบาลีอาคตสถานด้วยประการฉะนี้

บรรดาสถานที่พระบรมศาสดาเสด็จประทับอยู่ในเทศกาลจำพรรษาก็ดี นอกพรรษาก็ดี ล้วนเป็นสถานที่ทรงบำเพ็ญหิตานุหิตประโยชน์ ด้วยการแสดงธรรมโปรดพุทธเวไนย์เป็นคุณเตือนใจพุทธศาสนิกให้สร้างพระพุทธรูปปางต่าง ๆ ไว้เป็นอนุสรณ์และใส่ใจสักการบูชา เพราะเหตุนั้น พระพุทธรูปจึงมีปางต่าง ๆ จะประมวลยกมาแสดงตั้งแต่ต้นจนจบ โดยเริ่มแต่เสด็จออกทรงผนวชก่อนตรัสรู้ และตรัสรู้แล้ว เสด็จโปรดพุทธเวไนยสัตว์ ตลอดเวลา ๔๕ พรรษา และเสด็จดับขันธปรินิพพาน.

กำไลหินมงคล,แก้วขนเหล็ก,หินธรรมชาติ,หินมงคล,เครื่องประดับหิน